ก่อนอื่นต้องอธิบายว่า Social Commerce คือ กำลังซื้อสินค้าออนไลน์ทุกประเภทของผู้บริโภคบนแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ เช่น Facebook Instagram LINE หรือ Twitter เป็นต้น ในส่วนนี้จะสามารถช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถตัดสินใจในการจัดซื้อสินค้ามากักตุนไว้ได้ตรงตามความต้องการของลูกค้า โดยพ่อค้าแม่ค้าหลายคนไม่ทราบว่าเทคโนโลยีเหล่านี้มีประโยชน์อย่างไร…? บทความนี้จึงได้ทำการรวบรวม 5 ข้อดี ดังนี้

1.เข้าใจความต้องการลูกค้า ในข้อนี้มีผลต่อผลกำไรของผู้ประกอบการเป็นอย่างมาก เนื่องจากการทราบว่ากลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ชื่นชอบผลิตภัณฑ์แบบใด…? ก็จะได้จัดหาสิ่งนั้นมาสต็อกในปริมาณที่มากขึ้นส่งผลราคาที่แม่ค้าพ่อค้าจะได้จึงถูกมาก ผลกำไรย่อมมากขึ้นตามนั้นเอง
2.ขยายกิจการได้ไว คือ ลูกค้ามีความต้องการในแต่ละช่วงเวลาแตกต่างกัน ดังนั้นการมี Social Commerce ย่อมช่วยให้เจ้าของกิจการลื่นไหลตามกลุ่มผู้บริโภคได้ง่ายนั้นเอง ยิ่งในช่วงที่ประเทศกำลังพัฒนาด้วยแล้วการรู้ทันทิศทางนวัตกรรมใหม่จะส่งผลให้กำไรในการค้าขายเพิ่มมากขึ้นได้เรื่อย การขยายกิจการให้เติมโตก็ไม่ใช่เรื่องยาก
3.การซื้อ – ขายสะดวก คือ พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ทราบกลุ่มเป้าหมายของสินค้าเช่นไร ผู้บริโภคก็ทราบกลุ่มเป้าหมายของผู้ขายเช่นกัน ดังนั้นรอยต่อระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายจึงมีไม่มาก หากผู้ซื้อสนใจสินค้าก็สามารถสั่งซื้อสินค้ากับแม่ค้าหรือพ่อค้าได้โดยตรงทันที
4.ผู้บริโภคมีส่วนร่วมในการพัฒนาร้านค้าออนไลน์ คือ ในแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ที่เปิดพื้นที่ในการค้าขายจะมีช่องสำหรับรับคำ Review ของลูกค้าเสมอ ดังนั้นผู้บริโภคสามารถแนะนำ ติชมสินค้าและบริการต่าง ๆ ของร้านค้าให้พัฒนาไปในทิศทางที่ดีได้ง่าย
จากที่ได้อธิบายกันมานั้นจะเห็นได้ว่า Social Commerce ไม่ใช่สิ่งไกลตัวเลยสำหรับบุคคลที่อยากประกอบอาชีพเป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ โดยข้อสำคัญที่ทุกคนต้องคำนึกก่อนที่จะก้าวเข้าไปสู่วงการค้าขายนั้นนอกจากมีเงิน! แล้วควรมีใจรักในการบริการ
เนื่องจากในทุกวันแม่ค้าพ่อค้าจำเป็นต้องเจอบุคคลหลายประเภท หากไม่รักในอาชีพรักในงานบริการก็จะเป็นการยากที่จะประกอบอาชีพได้อย่างมีความสุขนั้นเอง
ติดตาม ข่าวเทคโนโลยีล่าสุด ข่าวไอทีวันนี้ และติดตาม นักวิทยาศาสตร์ ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับเทคโนโลยีของโลก